วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ถ้าถามว่าทำไมผมถึงต้องเล่นดนตรีเเนวนี้ ทั้งๆที่ผมเป็นนักดนตรีแนวอนุรักษ์ตัวพ่อตัวเเม่

นวัตกรรมทางดนตรี

     ในโลกนี้มีเครื่องดนตรีมากมายหลายร้อยหลายพันชนิดที่เกิดขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นดนตรีไทย ดนตรีจีน ดนตรีเเขก หรือดนตรีฝรั่งมังค่าที่จะเรียกกันว่าดนตรีสากล เเต่ทุกสิ่งอย่างที่ผมกล่าวมานั้นมนุษย์เรานั่นเเหละเป็นผู้สร้างดนตรีทุกชนิดขึ้นมา เพียงเเต่ดนตรีทุกชนิดนั้นจะเกิดขึ้นมานานเกินกว่าที่พวกเราจะทราบกันว่าใครเป็นผู้ค้นคิดหรือประดิษฐ์เครื่องดนตรีในเเต่ละชนิดนั้นขึ้นมานั่นเองเเหละครับ
     ส่วนในเรื่องของดนตรีไทยเรานั้นตามตำราประวัติเครื่องดนตรีบอกว่ามีมาตั้งเเต่สมัยสุโขทัย เเต่ในบางชนิดอย่างระนาดเอกนั้นก็พึ่งจะมีมาในสมัยอยุธยา แต่ก็มีนักโบราณคดีบางท่านได้ค้นพบหลักฐานว่าระนาดเอกนั้นเกิดขึ้นมาตั้งเเต่สมัยสุโขทัยเหมือนกัน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อให้โต้เเย้งกันไปนั่นเเหละครับ เเต่จะว่ากันจริงๆเเล้วนั้น สิ่งทั้งหลายทั้งปวงมันก็เป็นเพียงข้อสันนิฐาน ตำราไหนจะถูกหรือผิดมันก็คงเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินให้ชี้ชัดกันไป เพราะจริงๆเเล้วนั้นก็ไม่มีใครในยุคนี้เกิดทันสมัยสุโขทัยหรืออยุธยาหรอกครับ เเละที่สำคัญคือหลักฐานทุกอย่างนั้นมนุษย์เราก็เป็นผู้สร้างขึ้นมาอยู่เเล้วนี่ครับ สรุปว่าเครื่องดนตรีไทยเราทุกชนิดนั้นเกิดขึ้นมาหลายร้อยปีเเล้วครับจะยุคไหนสมัยไหนก็คงไม่เป็นอะไร เเละตัวผมเองนั้นก็ยังไม่เคยเห็นเครื่องดนตรีไทยชนิดใหม่ๆ เกิดขึ้นมาในยุคของผมแม้เเต่ชนิดเดียวหรือจะมีอย่างมากก็เเค่เอามาดัดเเปลงกันมาใหม่ในเรื่องของระดับเสียงเท่านั้นเอง
     ส่วนการเล่นดนตรีไทยของเราในยุคนี้ เราๆท่านๆนั้นคงจะทราบกันดีว่าจะมีอยู่ 2 แบบอย่างให้เราได้เห็นเเละได้เล่นกันก็คือการเล่นเเบบเดิมๆที่จะเรียกกันว่าเเนวอนุรักษ์ เช่นวงปี่พาทย์ วงเครื่องสาย ส่วนอีกเเบบหนึ่งก็คือเเนวร่วมสมัยหรือเเนวคอนเท็มโพรารีเเต่ถ้าจะเรียกให้เก่าลงไปหน่อยก็คือเเนวประยุกต์หรือดนตรีไทยผสมดนตรีสากลนั่นเองเเหละครับ ส่วนนักดนตรีไทยเรานั้นใครใคร่จะเล่นกันเเบบไหนก็มีสิทธิ์ที่จะกระทำกันได้ทุกๆคน อย่างไม่ต้องกลัวเกรงว่าดนตรีเเนวร่วมสมัยนี้จะทำให้การเล่นดนตรีไทยเเบบเดิมๆต้องสูญหายหรือเสียหายไป เหมือนอย่างเมื่อสมัยเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมานั้น มักจะมีเสียงต่อต้านดนตรีเเนวร่วมสมัยนี้จากครูดนตรีไทยผู้ใหญ่ในยุคก่อน เพราะว่าในปัจจุบันนี้ดนตรีร่วมสมัยนั้นเล่นกันตั้งเเต่วงเด็กนักเรียนชั้นประถม มัธยม อุดมศึกษาจนไปถึงวงดนตรีของหน่วยงานภาครัฐเเละเอกชน กองดุริยางค์ของเหล่าทัพทุกเหล่าต่างก็มีวงดนตรีร่วมสมัยกันหมดทุกสถาบันครับ
     ถ้าถามว่าดนตรีร่วมสมัยมีมานานหรือยัง ถ้าเป็นเมืองไทยบ้านเราวงเเรกที่ปรากฏต่อสาธารณชน ผมคิดว่าก็น่าจะเป็นวงกรมประชาสัมพันธ์ของครูเอื้อ สุนทรสนาน ซึ่งก็จะมีมาตั้งเเต่ก่อนยุค พศ.2500 แต่ก็จะมาเป็นรูปแบบในลักษณะของบทเพลงขับร้องสากลในบางเพลงที่นำทำนองเพลงไทยเดิมไปแต่งใหม่เท่านั้นเอง ก็คือไม่ได้เล่นรวมกับดนตรีไทยในทุกๆบทเพลง เเต่ถ้าจะให้นับวงดนตรีร่วมสมัยเเบบมาตรฐานก็ต้องเป็นวงฟองน้ำที่รวมตัวกันมาเมื่อปี พศ.2522 หลังจากนั้น 10 ปีก็จะตามมาเป็นวงกังสดาล ตามด้วยวงโนเวลเเจ๊ส ในปีเดียวกัน เเละบอยไทยในปี พศ.2536 ซึ่งวงดนรีร่วมสมัยเหล่านี้จัดเป็นกลุ่มวงดนตรีร่วมสมัยในยุคเเรกๆของเมืองไทย เเต่ไม่ใช่ว่าประเทศไทยเรานั้นเป็นประเทศเเรกที่เล่นดนตรีร่วมสมัยนะครับ
     ประวัติดนตรีร่วมสมัยนั้นเคยมีบันทึกของนักดนตรีสากลคลาสสิคท่านหนึ่งว่า ในการเกิดขึ้นครั้งเเรกของวงดนตรีร่วมสมัยก็คือวงออเคสตร้าทางฝั่งยุโรปนั้น มาเเสดงร่วมกับกลองแอฟริกา ก็คงจะเป็นพวกกลองเจมเบ้นั่นเเหละครับ เเต่ก็ไม่ได้ระบุว่าการเเสดงนั้นเป็นสถานที่เเห่งใด ส่วนตามประวัตินั้นจะเป็นจริงเเค่ไหนก็คงต้องพิสูจน์กันต่อไปเเหละครับ เเต่ที่เเน่ๆทางฝั่งประเทศจีนนั้นมีวงดนตรีร่วมสมัยเกิดขึ้นก่อนบ้านเราอย่างเเน่นอนเช่นดนตรีประกอบการเเสดงกายกรรมหรือวงออเคสตร้าจำพวกเครื่องสายจีนก็เกิดขึ้นมานานก่อนบ้านเรา แต่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นอีกก็คือเพลงปลุกใจของประเทศจีนที่ได้นำเครื่องดนตรีโบราณจำพวกเครื่องสายมาเล่นรวมกับเพลงปลุกใจตั้งเเต่ประเทศเขายังปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งตรงนี้วงดนตรีของบ้านเรานั้นก็ได้รับอิทธิพลทางดนตรีเเนวนี้จากประเทศจีนเเต่ก็กลายเป็นดนตรีเเนวเพื่อชีวิตในบ้านเรา ไม่ใช่วงดนตรีร่วมสมัยเเต่อย่างใดครับ
     ส่วนตัวของผมนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีว่าผมนั้นเลือกที่จะเล่นดนตรีไทยทั้งสองเเบบสองเเนว เหตุผล   ก็คือเเบบเเรกในดนตรีเเนวไทยเดิมหรือเเนวอนุรักษ์นั้น ผมเล่นมาตั้งเเต่เเรกเกิดเเล้วล่ะครับก็คือตระกูลโตสง่าของผม ครูอุทัย โตสง่า ปู่ทวดของผมเป็นนักดนตรีไทยที่อพยพลงมาจาก บางปะอิน จ.อยุธยา แล้วมาตั้งรกรากที่หลังวัดบวรนิเวศ ย่านบางลำพู กรุงเทพฯ ตั้งเเต่สมัยรัชกาลที่ 4 โน่นเลยครับ ส่วนทางคุณเเม่ผมสายสกุลดุริยพันธุ์นั้นก็เป็นตระกูลนักดนตรีที่มีขื่อเสียงในยุครัชกาลที่6 ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผมต้องเป็นนักดนตรีแนวอนุรักษ์เเบบดั้งเดิมเเละยังเป็นผู้สืบสานตระกูลปี่พาทย์โตสง่า ให้ยังคงเป็นสำนักปี่พาทย์ที่มีการเรียนรู้เเบบโบราณที่จะต้องมากินนอนและฝึกซ้อมอยู่ในบ้านเดียวกันให้เหมือนกับในยุคสมัยของครูพุ่ม โตสง่าคุณปู่ของผม ซึ่งจะตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 นั่นเองเเหละครับ ดังนั้นเเล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องเล่นดนตรีไทยเดิมเเนวอนุรักษ์ และยังไม่เพียงเเค่นั้นการดำเนินชีวิตของผมในทุกๆวันก็ยังคงเป็นในรูปแบบการอนุรักษ์วิถีนักดนตรีไทยโบราณ เช่นผมจะต้องจุดธูปไหว้พระ ไหว้ครูบาอาจารย์ในตอนเช้าของทุกๆวัน เเละยังต้องถวายหมูนอนตอง หรือไก่ต้ม บายศรี มาลัยดอกไม้ ผลไม้ รวมถึงขนมนมเนย น้ำชากาเเฟ เป็นประจำในทุกๆวันพฤหัสบดีเเละวันอาทิตย์ เเละสำคัญสุดคือทุกมื้ออาหารของผมก่อนที่ผมจะรับประทานต้องยกมือไหว้อธิฐานจิตให้บรมครูที่ปกปักรักษาเรานั้นมารับภัตราหารก่อนที่พวกเราจะลงมือรับประทานอาหารของมื้อนั้นๆ ซึ่งผมเองก็จะสั่งสอนให้ลูกศิษย์ในสำนักของผมนั้นใหักระทำตามเเบบนี้เหมือนกับที่ตัวผมเองนั้นได้ทำตามเเบบอย่างของครูสุพจน์ โตสง่าบิดาของผมเองนั่นเเหละครับ
     ส่วนในเเบบที่ 2 ก็คือเเนวร่วมสมัย แต่ถ้าถามว่าทำไมผมถึงต้องเล่นดนตรีเเนวนี้ ทั้งๆที่ผมเป็นนักดนตรีแนวอนุรักษ์ตัวพ่อตัวเเม่ ก็คงต้องเอาไว้อ่านในฉบับหน้ากันดีกว่าครับเพราะฉบับนี้ผมเขียนมายาวมากเเล้วกลัวท่านๆนั้นเบื่อที่จะอ่านกันเสียก่อนครับ เเละฉบับหน้าก็จะทราบกันอีกด้วยว่าอะไรนั้นคือ นวัตกรรมทางดนตรี เเล้วมันจะไปเกี่ยวข้องอะไรกับดนตรีร่วมสมัยหรือไม่ เอาไว้พบกันฉบับหน้าในวันที่ 16 ธันวาคม 2560 นะครับ และสำหรับฉบับนี้ก็ต้องขออภัยในความล่าช้าไป 2 วัน เนื่องจากขัดข้องทางเทคนิคในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ...สวัสดีครับ


                                                                                                             ขุนอิน

1 ความคิดเห็น: